เงินเก็บของฉันหายไปไหนหมด? ทำไมเราถึงทะเลาะกับเพื่อนหรือแฟนอยู่บ่อยๆ? ทำไมเพื่อนรุ่นเดียวกันดูจะก้าวหน้าไปเร็วมาก? ทำยังไงถึงจะได้งานบริษัทดีๆ? หรือแม้กระทั่ง อยากย้ายไปอยู่ต่างประเทศต้องทำยังไง? เชื่อว่า หลายคนอาจจะเคยมีคำถามเหล่านี้เกิดขึ้นบ้างบางครั้งในชีวิตใช่ไหมคะ ไม่ต้องกังวลไป คำถามเหล่านี้ ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดการเป็นคนเก่งหรือไม่เก่ง แต่เป็นแค่สิ่งที่เรารู้ หรือ ไม่รู้ เท่านั้นเอง
ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ ทักษะชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้ แต่โชคร้ายหน่อยที่โรงเรียนมักไม่สอน กว่าจะเข้าใจก็ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองโดยใช้เวลาหลายปี การเรียนรู้เกิดขึ้นได้ตลอดชีวิตก็จริง แต่การเรียนรู้ทักษะบางอย่างยิ่งรู้เร็วก็ยิ่งเสียโอกาสน้อย ลองมาดูกันค่ะว่าทักษะใดบ้างที่เราควรต้องมีก่อนอายุ 30
การบริหารการเงิน
ทักษะการบริหารเงินอาจเป็นเรื่องที่ฟังดูไกลตัว หรือหลายคนอาจจะยังรู้สึกว่าไม่สำคัญเท่ากับทักษะการ “หาเงิน” จริงๆ แล้วทั้งสองอย่างนั้นต่างก็มีความสำคัญเท่าๆ กัน ทักษะการบริหารเงินทำให้เรามีทางเลือกในการใช้ชีวิตมากขึ้น ใช้ชีวิตได้สนุกขึ้น และท้ายที่สุดคือทำให้เราไม่ต้อง “หาเงินอยู่ตลอดเวลา” เพราะทักษะการบริหารเงินนั้นครอบคลุมถึงการจัดการรายได้ โดยแบ่งเงินเป็นก้อนต่างๆ เพื่อใช้ในสิ่งที่เป็นความสุข, ความจำเป็น, เงินสำรองฉุกเฉิน, การลงทุนเพื่อผลตอบแทนในอนาคต รวมถึงการบริหารหนี้และภาษีด้วย
ราคาของการไม่รู้นั้นแสนแพง...
การมีทักษะในการบริหารเงินนั้น ยิ่งรู้เร็วก็ยิ่งดี แต่การไม่รู้ก็มีราคาที่ต้องจ่ายเช่นเดียวกัน ลองจินตนาการว่านาย เอ เมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัยมีเงินเก็บ 50,000 บาท แต่ไม่มีทักษะการบริหารเงินหรือการลงทุน เมื่อเริ่มทำงานมีรายได้ แต่ไม่มีการกำหนดสัดส่วนของการใช้จ่ายและการลงทุน นาย เอ จึงมีโอกาสได้เก็บเงินบ้าง หรือบางเดือนก็ใช้เกินเงินเดือนบ้าง ผ่านไปเป็นเวลา 10 ปี นายเอยังคงมีเงินเก็บ 50,000 บาท
ส่วนนาย บี เมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัยมีเงินเก็บ 50,000 บาท แต่นาย บี มีทักษะการบริหารเงิน จึงเอาเงินเก็บไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้กำไร 10% ต่อปี และระหว่างทำงานแต่ละเดือนนาย บี เก็บเงินเพื่อลงทุนเดือนละ 2,000 บาท ส่วนที่เหลือจากการเก็บค่อยนำไปใช้ โดยแบ่งเป็นงบต่างๆ เช่นเพื่อความบันเทิง เพื่อการศึกษา ผ่านไปเป็นเวลา 10 ปี นายบีจะมีเงิน 545,000 บาท
ในกรณีนี้นาย เอ ต้องจ่ายราคาของความไม่รู้สูงถึงเกือบห้าแสนบาทเมื่อเทียบกับนายบี ทั้งนี้ยังไม่นับโอกาสอื่นๆที่ตามมาจากการบริหารเงินขของนายบี เช่น เมื่อนาย บี มีความรู้ด้านการลงทุน จึงอาจแบ่งเงินบางส่วนไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนมากกว่า หรือการนำเงินเก็บที่มีไปลงทุนต่อยอดในธุรกิจอื่นๆ อีกด้วย
ปัจจุบันหลายๆ คนเริ่มตื่นตัวในการศึกษาด้านการบริหารเงิน แนะนำให้กดลิ้งค์ด้านล่าง ซึ่งเป็นลิ้งค์ไปสู่ Shift Academy ซึ่งมีคอร์สบริหารการเงินส่วนบุคคลที่ผู้เขียนคิดว่ามีเนื้อหาที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์มากๆ ค่ะ
2. ทักษะด้านการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
ฟังดูเป็นทักษะที่เป็นเรื่องกว้างๆ แต่จริงๆ แล้วทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญและมีผลกระทบต่อชีวิตในหลายแง่มุมเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่ด้านการทำงาน หรือการเรียนเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ซึ่งทั้งหมดล้วนส่งผลต่อความสุข ความก้าวหน้า และความมั่นคงของชีวิตในระยะยาวอีกด้วย
ทุกการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ มีพื้นฐานมาจากความเข้าใจในความต้องการและความคาดหวังของผู้ที่เราสื่อสารด้วย เข้าใจวัตถุประสงค์ของการสื่อสาร และสามารถมองจากมุมของผู้รับสารได้ ไม่ใช่เพียงแค่เข้าใจในสิ่งที่เราต้องการสื่อสารไปเท่านั้น เช่นในการพรีเซ้นท์โปรเจค เราอาจจะเข้าในเนื้อหาของโปรเจคนั้นเป็นอย่างดี แต่เรายังต้องมองจากมุมของผู้ฟังด้วยว่าเมื่อฟังเนื้อหาส่วนนี้แล้วจะคิดหรือรู้สึกอย่างไร และเราควรสื่อสารอะไรเพื่อเน้นย้ำประเด็นที่เราต้องการสื่อ และทำให้ผู้ฟังเข้าใจ เห็นด้วยและทำตามวัตถุประสงค์ในการสื่อสารของเรา
ทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้เราสื่อสารอย่างประสบความสำเร็จได้ในหลายสถานการณ์อย่างเช่น การต่อรองเงินเดือน, การนำเสนอผลงาน, การขาย, การเข้าสังคม, การแก้ไขความขัดแย้งระหว่างบุคคล และอื่นๆอีกมากมาย แต่ก็เช่นเดียวกับทักษะด้านการบริหารเงินที่มักจะไม่ถูกสอนจนกว่าเราจะเรียนรู้ได้เอง ถ้าเราลองย้อนนึกดูว่ามีครั้งไหนบ้างที่เรารู้สึกว่า “ฉันไม่น่าพูดหรือสื่อสารออกไปแบบนั้นเลย” สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือค่าเสียโอกาสในการไม่มีทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเองค่ะ
อย่างไรก็ตาม ทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นสิ่งที่เราสามารถสร้างได้ผ่านการเรียนรู้และฝึกฝน แต่จะดีที่สุดถ้าหากเรามีทักษะนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะนั่นจะเป็นการประหยัดค่าเสียโอกาสของเราค่ะ
สำหรับใครที่อยากจะเพิ่มทักษะด้าน Presentation Skills ลองเข้าไปดูคอร์ส Presentation Skills ที่เว็บไซต์ Future skill ได้ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ
3. ภาษาอังกฤษ และภาษาที่สาม
ทักษะในข้อนี้เชื่อว่าทุกคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าทักษะ ภาษาอังกฤษ และภาษาที่สามมีความสำคัญต่อการเรียนและการทำงานเป็นอย่างมากในแทบทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์งาน การทำงาน การปรับตำแหน่งหรือขึ้นเงินเดือน
นอกเหนือจากสิ่งที่ทุกคนทราบดีอยู่แล้วนั้น การมีทักษะ ภาษาอังกฤษ และภาษาที่สาม ยังช่วยเปิดโอกาสให้กับเราอย่างมาก ด้วยความที่โลกปัจจุบันวิวัฒนาการไปในทุกด้าน การมีทักษะภาษาอังกฤษช่วยให้เราเข้าถึงแหล่งข้อมูลด้วยตัวเองได้ อย่างเช่นถ้าหากเราสนใจเรื่อง Blockchain หรือ Decentralized Finance หรือการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ เราก็สามารถเปิดโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลและโอกาสในการลงทุนได้
ยิ่งไปกว่านั้นทักษะ ภาษาอังกฤษ และภาษาที่สาม ยังช่วยให้เรามีโอกาสในการหาประสบการณ์ในการทำงานหรือใช้ชีวิตในต่างประเทศได้ ซึ่งจะเปิดมุมมองและโอกาสใหม่ๆให้กับเราได้อีกด้วย
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าเราจะเรียนอะไรหรืออยู่ในสายอาชีพไหนก็จำเป็นต้องมีทักษะเหล่านี้ทักษะเหล่านี้ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่เพียงแต่สร้างโอกาสเมื่อเรามีมันเท่านั้น แต่ยังทำให้เสียโอกาสถ้าหากเราไม่มีอีกด้วย แต่ก็เช่นเดียวกับทักษะอื่นๆ เช่นว่ายน้ำหรือปั่นจักรยาน ทักษะเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้ขอเพียงแค่เราเริ่มต้นเท่านั้นค่ะ ขอให้ทุกคนสนุกกับการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ นะคะ